๏ มงคล ๓๘
อย่าคบคนชั่วช้า เลวทราม
คบแต่บัณฑิตนาม อย่าเว้น
บูชาท่านธรรมงาม ใจเปี่ยม บุญนา
สามมิ่งมงคลเน้น ช่วยให้รุ่งเรือง
อยู่เมืองที่แวดล้อม สิ่งดี
บุญเก่าแต่ก่อนมี ก่อไว้
ตั้งตนเพื่อเป็นศรี ควรแก่ ตนนา
สามมิ่งมงคลไซร้ ช่วยให้ร่มเย็น
เป็นผู้มุ่งใฝ่รู้ วิชา
บทวินัยศึกษา เคร่งไว้
วาจากล่าวนำพา แต่สิ่ง ดีนา
สี่มิ่งมงคลไซร้ ช่วยให้ปลอดภัย
ให้ช่วยพ่อแม่พร้อม บุตรหลาน
เมียที่รักวงศ์วาน ทั่วหน้า
ธุรกิจอีกการงาน รีบเร่ง ดีนา
สี่มิ่งมงคลกล้า ช่วยให้มั่นคง
จงให้ทานช่วยเกื้อ สังคม
ประพฤติธรรมนิยม อย่าคร้าน
สงเคราะห์ญาติชื่นชม งานชั่ว เว้นนา
สี่มิ่งมงคลต้าน ช่วยให้เบิกบาน
การทำสิ่งชั่วช้า อย่าทำ
กินดื่มเมาระยำ งดไว้
ประมาทยิ่งในธรรม จงอย่า ทำนา
สามมิ่งมงคลไซร้ ช่วยให้โชคดี
มีจิตเคารพอ่อนน้อม ถ่อมตน
สันโดษรู้คุณคน ทั่วหล้า
ฟังธรรมเกิดกุศล เอิบอิ่ม ธรรมนา
ห้ามิ่งมงคลฟ้า ช่วยให้มีชัย
ให้อดทนข่มไว้ ดูงาม
อีกเชื่อฟังคำความ ถี่ถ้วน
เห็นสมณะเฝ้าถาม เรียนเรื่อง ธรรมนา
สามมิ่งมงคลล้วน ช่วยให้งดงาม
มีความเพียรก่อสร้าง พรหมจรรย์
เห็นซึ่งอริยสัจจ์อัน จริงล้วน
ลุถึงนิพพานพลัน ดับซึ่ง ทุกข์นา
สี่มิ่งมงคลถ้วน ช่วยให้สงบเย็น
จิตเป็นสุขตื่นรู้ เบิกบาน
ไม่โศกไม่รำคาญ ร่ำไห้
จิตพ้นธุลีมาร ลุสู่ เกษมนา
สี่มิ่งมงคลไซร้ ช่วยให้พ้นกรรม
ธรรมสามสิบแปดนี้ ยอดธรรม
เทพและมนุษย์หากทำ ย่อมได้
มงคลยิ่งเลิศล้ำ กว่าสิ่ง อื่นนา
นำผ่านพ้นภัยร้าย สู่ห้วงสวัสดี ฯ
๏–––––๏
วันวันมัวแต่เฝ้า หลอกใจ
แต่งแต่นอกลืมใน เน่าได้
หลงเรือนร่างหลงวัย ติดบ่วง กามนา
จิตโง่คือตัวร้าย เสื่อมได้ลืมบุญ ฯ
๏–––––๏
ปริญญาค่าแท้ แค่รู้
หากไร้คุณธรรมคู่ ชั่วร้าย
ความรู้ต่างมีอยู่ แต่ชั่ว
รู้คู่คุณธรรมได้ โลกนี้เชิดชู ฯ
๏–––––๏
เรามีความแก่นี้ ธรรมดา
อีกเจ็บป่วยมรณา เกิดได้
พรากจากสิ่งเสน่หา ต้องพบ
กรรมก่อไว้ดีร้าย ต่างล้วนเสวยผล ฯ
๏–––––๏
ดูบริสุทธิ์ยิ่งแท้ เด็กดี
เพาะบ่มพรหมจารี เลิศไว้
เกิดหน่อแห่งกุลสตรี ควรแก่ โลกนา
พ่อแม่สุขใจไซร้ หากได้ลูกดี
๏–––––๏
คลอเคลียเคียงคู่เคล้า คนพาล
สุขบ่คงอยู่นาน แก่เจ้า
คนพาลก่อรำคาญ มาสู่ ใจนา
คบเพื่อนจิตพาลเข้า ไม่ช้าเสียคน ฯ
๏–––––๏
วันวันใจฟุ้งซ่าน วุ่นวาย
ทุกข์ท่วมทั้งใจกาย ค่ำเช้า
เหลือบหาที่พึ่งหมาย หวังช่วย พ้นนา
มีแต่บุญช่วยเจ้า เร่งเข้าสั่งสม ฯ
๏–––––๏
ล้มแล้วลุกต่อสู้ พากเพียร
ผิดย่อมก่อบทเรียน ซ่อมได้
เท้าสี่ยิ่งกว่าเซียน ยังร่วง ตกนา
ผิดพลาดใช่เรื่องร้าย แค่ไว้ศึกษา ฯ
๏–––––๏
ปิดปิดหูปิดไว้ ทั้งสอง
ปิดปิดตาอย่ามอง ปิดไว้
ปากต้องยิ่งควรตรอง ปิดแน่น เงียบนา
สามช่องปิดได้ไซร้ นั่งใกล้นิพพาน ฯ
๏–––––๏
เปิดเปิดตานี่ให้ เห็นธรรม
เปิดเปิดหูฟังคำ กล่าวชี้
เปิดเปิดปากกล่าวพร่ำ แต่แก่น ธรรมนา
จิตย่อมได้กระพี้ แก่นแท้พระธรรม ฯ
๏–––––๏
ห้ามฝนฟ้าอย่าให้ ตกมา
ห้ามซึ่งแสงสุริยา ส่องไซร้
ห้ามไว้ซึ่งเวลา อย่าเปลี่ยน เลยนา
ห้ามเหล่านี้ไว้ได้ ค่อยห้ามความซวย ฯ
๏–––––๏
ชีวิตคือการต่อสู้ อดทน
อุปสรรคตัวฝึกฝน แกร่งกล้า
ศัตรูคือจักรกล ขับเคลื่อน เรานา
สติตื่นรับคำท้า อย่าได้หวั่นไหว ฯ
๏–––––๏
โบกมือลาเพื่อให้ จบกัน
รักที่เคยผูกพัน พักไว้
รักใคร่ย่อมมีวัน แปรเปลี่ยน เสื่อมนา
รักแห่งกรุณาไซร้ ช่วยให้มั่นคง ฯ
๏–––––๏
วันสงกรานต์เล่นน้ำ ดำหัว
และเพื่อขมากรรมชั่ว ก่อไว้
วัฒนธรรมที่งามทั่ว สืบทอด ดีนา
ยุคถ่อยทำลายให้ ป่นปี้เสื่อมถอย
๏–––––๏
สาวน้อยกล้าเล่นน้ำ ไม่อาย
เปิดยั่วยวนเพศชาย น่าเศร้า
โลกเริ่มเสื่อมวอดวาย ไม่ต่าง สัตว์นา
นับยิ่งแย่มากเข้า เน่าได้ทั่วไทย ฯ
๏–––––๏
โกรธคือโง่เกิดแล้ว ตัวกู
ย่อมชื่อว่าบ้าอยู่ ค่ำเช้า
สติเฝ้าแอบคอยดู อยู่เรื่อย เรื่อยนา
ย่อมดับจิตก้าวร้าว เปลี่ยนแก้ใจตน ฯ
๏–––––๏
ควรรีบตื่นแต่เช้า ทำบุญ
ตักบาตรสั่งสมทุน เก็บไว้
บุญคือสิ่งค้ำจุน เสริมส่ง จิตนา
มัวแต่ขี้เกียจไซร้ เกิดได้บาปกรรม ฯ
๏–––––๏
ควรรีบทำเร่งไว้ ภาวนา
ท่องสวดมนต์คาถา ค่ำเช้า
พากเพียรเพื่อปัญญา พ้นบ่วง มารนา
สุขเกิดทุกย่างก้าว ชาตินี้สว่างไสว ฯ
๏–––––๏
บุญนั้นจะมากน้อย ควรทำ
บาปชื่อตัวเวรกรรม อย่าสร้าง
มากน้อยอย่าได้ถลำ เที่ยวก่อ ไว้นา
มีแต่ทุกข์โทษร้าง เร่าร้อนโศกา ฯ
๏–––––๏
ยิ่งคิดมากยิ่งเศร้า เสียใจ
ร้องยิ่งร้องร่ำไห้ อาจบ้า
ยิ่งเครียดยิ่งทุกข์ใหญ่ ไม่ปล่อย วางนา
รู้สึกตัวอย่าช้า รีบใช้ปัญญา ฯ
๏–––––๏
อายุ นั้นให้อยู่ได้ หมื่นปี
วรรณะ ผุดผ่องศรี ผ่องแผ้ว
สุข ครองอยู่ตลอดปี เป็นหนึ่ง
พละ นั่งนอนแล้ว สุขล้นกายใจ ฯ
๏–––––๏
ให้มีมากเพื่อนแท้ รู้ใจ
เงินหลั่งมาเหลือใช้ ไม่อั้น
โชคลาภอยู่ใกล้ไกล ไหลหลั่ง
รักร่วมเรือนหอนั้น คู่แท้ตลอดกาล ฯ
๏–––––๏
รู้ธรรมหากรู้ทั่ว คัมภีร์
แปลท่องบทบาลี สอบได้
แปดหมื่นจดจำดี หาใช่ รู้นา
รู้รูปรู้นามได้ แน่แท้รู้จริง ฯ
๏–––––๏
ตื่นจากหลับง่วงนี้ ตื่นนอก
ตื่นจากกิเลสหลอก ตื่นแท้
ตื่นรู้ทุกข์หลีกออก สอบผ่าน
ตื่นจากหลงเปลี่ยนแก้ แน่แท้ตื่นใน ฯ
๏–––––๏
จิตเบิกบานแจ่มแจ้ง ในธรรม
จิตผ่องใสสุขล้ำ นิ่งได้
จิตเอิบอิ่มรู้ทำ ในสิ่ง ถูกนา
จิตว่างจากอธรรมร้าย เรียกผู้เบิกบาน ฯ
๏–––––๏
รักคือความใคร่นั้น ตัณหา
มุ่งก่อตัวอัตตา เร่าร้อน
รักคือจิตเมตตา ก่อสุข
ยิ่งรักดั่งถูกป้อน อิ่มล้นกายใจ ฯ
๏–––––๏
วันสงกรานต์ก่อให้ เกิดบุญ
เพาะเพิ่มกุศลทุน เก็บไว้
ทำบุญเพื่อค้ำจุน เสริมส่ง ธรรมนา
มีแต่ดีดีไซร้ ส่งให้โชคดี ฯ
๏–––––๏
ชาวเอ๋ยชาวพุทธแท้ จงจำ
บุญหากจะต้องทำ ท่องไว้
อย่าหลงเชื่อหลงคำ หลอกล่อ
อีกอย่างขายบุญไซร้ อย่าได้โง่ทำ ฯ
๏–––––๏
รดกายเย็นส่งให้ ถึงใจ
บวชอยู่ต่อตลอดไป อย่าร้าง
ร่มเย็นคู่อยู่ใน สมณะ
น้ำรดสรงชะล้าง อย่าได้สึกเลย ฯ
๏–––––๏
มารดาเบ่งคลอดเจ้า ออกมา
รักดั่งดวงแก้วตา มากไซร้
เฝ้าห่วงทุกเวลา เช้าค่ำ
ยามแก่แม่ขอให้ ช่วยเลี้ยงดูใจ ฯ
๏–––––๏
สติคือตัวช่วยให้ ปลอดภัย
ช่วยโลกให้สว่างไสว เจิดจ้า
สติมากยิ่งกำไร ในสุข
เร่งฝึกสติให้กล้า ชาตินี้สงบเย็น ฯ
๏–––––๏
วันสงกรานต์ผ่านพ้น ล่วงเลย
เฉกเช่นทุกวันเคย ผ่านพ้น
จิตเข้าสู่ความเฉย หาตื่น ตูมนา
วันใหม่มาตั้งต้น ตื่นเต้นตามเคย ฯ
๏–––––๏
วันสงกรานต์ผ่านพ้น นับพัน
เที่ยวเล่นน้ำสนุกกัน ทั่วหน้า
นิสัยเก่านับวัน พูนพอก
หาเปลี่ยนตามฟ้า เพื่อแก้นิสัย ฯ
๏–––––๏
แบกหินหนักหนึ่งก้อน เดินเซ
ทุกข์เหนื่อยท้อลังเล ร่ำไห้
วางลงบอกนานเน หาเชื่อ กันนา
ทุกสิ่งวางลงไว้ ย่อมได้เบาใจ ฯ
๏–––––๏
โลกส่วนโลกอย่าได้ หลงตาม
เขาส่วนเขาดีทราม อย่าร้อน
เราก็ส่วนเรางาม ดีชั่ว รู้นา
จิตอย่าวิ่งไล่ต้อน ไขว่คว้าบ้าตาม ฯ
๏–––––๏
วันวันจิตเร่าร้อน กลกาม
ส่ายแส่วิ่งไล่ตาม อยากได้
มืดบอดหม่นหมองทราม กามท่วม จิตนา
รีบตื่นฝืนจิตร้าย เร่งรู้ดูใจ ฯ
๏–––––๏
กำลังใจสิ่งนี้ สำคัญ
เสกส่งสู่สวรรค์ ย่อมได้
หมดสิ้นแย่ลงพลัน ตายแน่
คือสิ่งหวังสุดท้าย ที่ต้องให้กัน ฯ
๏–––––๏
เฟสบุ๊คนั้นสื่อได้ ทั่วไป
ส่งข่าวสารใกล้ไกล เพื่อนรู้
บ่งบอกซึ่งจิตใจ คนเล่น
เป็นแหล่งเกิดมิตรชู้ ร่วมสร้างบาปบุญ ฯ
๏–––––๏
บ่นบ่นแล้วย่อมได้ สิ่งใด
หรือบ่นเพื่อสะใจ เบื่อท้อ
ยิ่งบ่นบ่นมากไป คนเบื่อ
ควรนิ่งปิดปากจ้อ เร่งแก้ใจตน ฯ
๏ อริยสัจจ์
ความทุกข์นั้นบีบคั้น ทนยาก
ตัวเหตุสมุทัยฉาก เริ่มต้น
นิโรธดับสิ้นจาก กิเลส
มรรคหลักปฏิบัติค้น เพื่อพ้นบ่วงมาร ฯ
๏ โอวาทปาฏิโมกข์
เลิกละความชั่วช้า เลวทราม
เร่งก่อความดีงาม ทั่วพร้อม
ทำจิตผ่องใสตาม คำสั่ง สอนนา
สามสิ่งนี้ควรน้อม ใส่เกล้าฝึกฝน
อดทนยิ่งอดกลั้น ตบะแท้
อันว่านิพพานแล เลิศฟ้า
เบียดเบียนเที่ยวรังแก สัตว์อื่น ผิดนา
หาใช่สมณะพระกล้า หน่อเนื้อพุทธวงศ์
ไม่ยุยงกล่าวร้าย ใครใคร
อีกไม่ทำร้ายใจ เพื่อนพ้อง
สำรวมเคร่งวินัย ไม่หย่อน ยานนา
เรื่องปากอยากกินต้อง งดไว้เป็นดี
ที่นั่งนอนอยู่ให้ ไกลสงัด
จิตเร่งเพียรละขจัด สิ่งเศร้า
โอวาทธรรมมุ่งขูดขัด ให้สว่าง สงบนา
รีบตื่นเรียนรู้เข้า ค่ำเช้าเดินตาม ฯ
๏ พรหมวิหาร ๔
เมตตา จิตมุ่งเกื้อ ให้สุข
กรุณา ช่วยดับทุกข์ ทั่วไซร้
มุทิตา จิตร่วมสนุก เชยชื่น ชมนา
อุเบกขา นิ่งไว้ ย่อมได้เป็นพรหม ฯ
๏ ต้นตอ
มานะตัวก่อให้ เหลืองแดง
ทิฏฐิให้รุนแรง ด่าได้
ตัณหาเหตุยื้อแย่ง เป็นใหญ่ ครองนา
สามสิ่งเหตุชั่วร้าย พี่น้องฆ่ากัน ฯ
๏ เหตุหย่าร้าง
ศรัทธาความเชื่อนั้น ต่างกัน
ศีลยิ่งต่างเผ่าพันธุ์ ยึดไว้
การเสียสละแบ่งปัน หาเท่า กันนา
คิดอ่านปัญญาไซร้ เหตุให้แยกทาง ฯ
๏ คาถาเศรษฐี
อุ เพียรขยันหมั่นสู้ การงาน
อา ฝากในธนาคาร เก็บไว้
กะ เว้นคบคนพาล หลบหลีก
สะ จับจ่ายรู้ใช้ เก็บไว้ให้ดี ฯ
๏ ตัววัดใจ๏
ศรัทธาความเชื่อนี้ ควรมี
ศีลบ่อเกิดความดี พรั่งพร้อม
จาคะมากไมตรี เผื่อแผ่
ใช้ซึ่งปัญญาน้อม ใส่ไว้ในใจ ฯ
๏ มนต์เสน่ห์
ทานเผื่อแผ่แบ่งให้ ด้วยใจ
ปากกล่าวหวานสดใส ค่ำเช้า
ขวนขวายช่วยเหลือไป ถ้วนทั่ว
จิตร่วมสุขทุกข์ก้าว เสน่ห์แท้มัดใจ ฯ
๏ มิตรแท้
มิตรสหายที่แท้ จริงใจ
หวังซึ่งสิ่งใดใด ช่วยได้
สุขทุกข์เมื่อมีภัย ร่วมเสพ
บอกซึ่งบุญบาปร้าย ช่วยให้พ้นภัย ฯ
๏ บุญกิริยาวัตถุ ๑๐
น้อมสิ่งของแบ่งให้ เป็นทาน
ศีลเร่งสมาทาน เคร่งไว้
ภาวนาเพื่อเกิดญาณ บุญใหญ่
จิตอ่อนน้อมก้มให้ แน่ไซร้ตัวบุญ
กายค้ำจุนช่วยเกื้อ การงาน
แบ่งส่วนบุญทำทาน แผ่ให้
ยินดียิ่งทุกกาล สาธุ
รีบเร่งฟังธรรมไว้ ก่อให้สุขนาน
ธรรมทานแน่แท้ มหาบุญ
รีบก่อเก็บเป็นทุน ห่อไว้
ความเห็นที่เป็นคุณ ต่อบาป บุญนา
เหตุเกิดแห่งบุญไซร้ หมั่นสร้างบำเพ็ญ ฯ
๏ ชาวพุทธชั้นนำ
พุทธแท้จิตมั่นไว้ ในธรรม
น้อมเชื่อผลแห่งกรรม ก่อไว้
ศีลข้อปฏิบัตินำ มาสู่ ตนนา
แตกตื่นมงคลไซร้ ไม่บ้าหลงตาม
บุญงามปลูกก่อไว้ ในเขต
ไม่เชื่อผู้วิเศษ เก่งกล้า
บำรุงมุ่งจิตเจตน์ มอบแด่ ธรรมนา
ได้ชื่อพุทธแนวหน้า สู่ขั้นชั้นนำ ฯ
๏ โลกธรรม
โลกธรรมธรรมแปดข้อ ต้องเผชิญ
ได้ลาภยศสรรเสริญ สุขบ้าง
เสียลาภยศยับเยิน ถูกด่า ทุกข์นา
ธรรมเกิดพร้อมโลกสร้าง ไม่ช้าพบพาน ฯ
๏ วุฑฒิธรรม
สัตบุรุษท่านให้ คบหา
ธรรมเร่งฟังศึกษา มากไว้
คิดเพื่อเกิดปัญญา รู้เหตุ ผลนา
ปฏิบัติธรรมนั้นให้ สอดคล้องตามธรรม ฯ
๏ อุปกิเลส ๑๖
อุปกิเลสเหล่านี้ ตัวร้าย
ธรรมดีเกิดไม่ได้ ขัดไว้
จิตบุรุษหญิงชาย ตกต่ำ เสื่อมนา
ดุจดั่งผ้าเปื้อนไซร้ ห่อไว้ธุลี
มีจิตโลภเร่าร้อน อยากได้
จิตมุ่งคิดปองร้าย ไม่เว้น
โกรธแค้นไม่จางหาย ลบหลู่ คุณนา
ดูหมิ่นท่านบีบเค้น ชั่วช้าหาเกิน
นั่งเดินจิตมุ่งร้าย ริษยา
หวงห่วงมากมายา ซ่อนไว้
โอ้อวดว่าเก่งกล้า ดื้อแพ่ง มึนนา
หวังแต่ดีเด่นไซร้ มุ่งให้ชนะกัน
มากชั้นเชิงหยิ่งกล้า ถือตัว
หลงว่าตนดีทั่ว เท่าฟ้า
คิดดูหมิ่นเมามัว หลงชั่ว ผิดนา
เลินเล่อประมาทบ้า ผ่านได้ถึงธรรม ฯ
๏–––––๏
ศรัทธาควรเชื่อได้ อย่าหลง
หลงล่อเข้าติดกรง ฆ่าได้
ศรัทธาที่มั่นคง อาจเปลี่ยน ได้นา
รู้ว่าเป็นโจรร้าย ยิ่งต้องระวัง ฯ
๏–––––๏
คิดจะรักยิ่งต้อง เลือกดู
ขออย่าหลงรักอยู่ แค่หน้า
จิตอาจซ่อนศัตรู หวังหลอก
เลือกคู่ดูช้าช้า อย่าได้คว้าเร็ว ฯ
๏–––––๏
เห็นไก่เป็นไก่ได้ สิ่งดี
อยากเปลี่ยนเป็นเป็ดนี่ สิ่งร้าย
ไก่คือไก่อย่าชี้ เป็นอื่น บ้านา
คนต่างคุณภาพได้ อย่าได้เปลี่ยนใคร ฯ
๏–––––๏
บุญนั้นเราร่วมสร้าง กันมา
ได้ร่วมรสเสน่หา แค่นี้
บุญหมดย่อมเลิกรา เหินห่าง
บุญบาปคือตัวชี้ เปลี่ยนขั้วหัวใจ ฯ
๏–––––๏
บัวเหนือน้ำย่อมรู้ ฉับพลัน
บัวปริ่มน้ำรู้ทัน ช่วยได้
ใต้น้ำย่อมหลายวัน เพาะบ่ม รู้นา
บัวอยู่ในตมท้าย ชั่วร้ายเศษคน ฯ
๏–––––๏
ใจนี้เป็นใหญ่ได้ ทุกงาน
กินเที่ยวสนุกสนาน สั่งได้
ทุกข์ท้อเบื่อทรมาน อยู่ที่ ใจนา
ทุกสิ่งจะดีร้าย เริ่มต้นที่ใจ ฯ