๏ นิทานมนุษย์
ผลกรรมจำแนกแล้ว มนุษย์สัตว์
แบ่งแยกชี้บอกชัด ค่าไซร้
ดีร้ายทุกส่วนสัด จัดครบ
กรรมลิขิตขีดไว้ ครบถ้วนอัตรา
ลืมตาดูย่อมรู้ วาสนา
แตกต่างค่าราคา บ่งชี้
บ้างสุขทุกเวลา เสวยเสพ
บ้างทุกข์ท่วมมากหนี้ หมดเนื้อหมดตัว
บ้างนอนทั่วขอบข้าง ริมถนน
บ้างอดอยากยากจน ชั่วช้า
บ้างสวยหล่อน่ายล เลิศยิ่ง
บ้างพิการใบ้บ้า ป่วยไข้โรครุม
บ้างคิดกลุ้มเร่าร้อน จอมเครียด
บ้างช่างน่ารังเกียจ ฉลาดรู้
บ้างสูงศักดิ์สูงเกียรติ โดดเด่น
บ้างกัดฟันฝืนสู้ นั่งเฝ้าลาภลอย
บ้างคอยพึ่งพี่น้อง ญาติมิตร
บ้างโง่เง่าสิ้นคิด ร่ำไห้
บ้างมากเล่ห์มากพิษ โฉดชั่ว
บ้างตกนรกหมกไหม้ เที่ยวสร้างเวรกรรม
บ้างทำดีค่ำเช้า ขวนขวาย
บ้างช่างน่าอับอาย โลกไซร้
บ้างสมบัติมากมาย กองท่วม
บ้างผิดหวังหม่นไหม้ โศกเศร้าพลาดหวัง
บ้างตั้งเป้าวาดไว้ งดงาม
บ้างติดพนันบ้ากาม เดือดร้อน
บ้างติดคุกต้องความ รับโทษ
บ้างรื่นเริงรำฟ้อน เที่ยวร้องรำกิน
บ้างสิ้นทุกข์หลุดพ้น ตัณหา
บ้างอวดเก่งอวดกล้า อวดรู้
บ้างมากซึ่งปัญญา สันโดษ
บ้างช่วยโลกกอบกู้ รับใช้แผ่นดิน
บ้างกินเที่ยวเล่นไซร้ เพลิดเพลิน
บ้างอกหักรักเมิน โศกเศร้า
บ้างตกอับยับเยิน อาภัพ
บ้างอัปรีย์ค่ำเช้า โหดร้ายทารุณ
บ้างทำบุญก่อสร้าง บารมี
บ้างไม่ต่างเปรตผี หลอกไซร้
บ้างด่าว่าป้ายสี เพ่งโทษ
บ้างยึดคุณธรรมไว้ กราบไหว้บูชา
บ้างภาวนาตื่นรู้ ใฝ่ธรรม
บ้างบวชลาเวรกรรม เคร่งไว้
บ้างโคตรชั่วระยำ เกินเปรียบ
บ้างนิ่งสงบเงียบไซร้ ชนะได้โลกธรรม
บ้างใฝ่ต่ำชั่วช้า เลวทราม
บ้างใฝ่ดีงดงาม เลิศล้ำ
บ้างปล่อยจิตคล้อยตาม กิเลส
บ้างเจ็บปวดชอกช้ำ แตกร้าวครอบครัว
บ้างเกรงกลัวบาปไซร้ คิดดี
บ้างคิดโลภมั่งมี อยากได้
บ้างอุบาทว์กาลี เข่นฆ่า
บ้างจิตคิดมุ่งร้าย โกรธแค้นจองเวร
บ้างงดเว้นเคร่งแล้ว ศีลสัตย์
บ้างเก็บออมประหยัด ห่อไว้
บ้างเจ้าระเบียบจัด ยึดกฏ
บ้างโคตรแสบมากไซร้ หลอกได้ตลอดปี
บ้างมีดีเก่งกล้า สารพัด
บ้างเพิ่งเริ่มฝึกหัด บ่มไว้
บ้างเที่ยวเตร่จรจัด ไร้ที่
บ้างประมาทมากไซร้ ชั่วช้าเนรคุณ
บ้างค้ำจุนชุบเลี้ยง พ่อแม่
บ้างจิตหลงลืมแก่ แต่งแต้ม
บ้างคุณภาพย่ำแย่ น่าเกลียด
บ้างเบิกบานยิ้มแย้ม เพื่อนพ้องมากมาย
บ้างค้าขายแลกซื้อ ลงทุน
บ้างฉิบหายขาดทุน เลิกล้ม
บ้างทำชั่วอ้างบุญ โกหก
บ้างมุสาหลอกต้ม พระเจ้าทรงศีล
บ้างกินมื้ออดมื้อ ขอทาน
บ้างมากโรคทรมาน ป่วยไข้
บ้างคล่องแคล่วชำนาญ ช่างพูด
บ้างอ่อนน้อมชอบให้ ช่วยได้ทุกคน
บ้างอดทนเก่งแก้ ปัญหา
บ้างช่างเจ้าน้ำตา ร่ำไห้
บ้างมากเล่ห์มายา เหลี่ยมจัด
บ้างเกียจคร้านมากไซร้ พี่น้องระอา
บ้างศรัทธาเชื่อแล้ว บุญบาป
บ้างสวดมนต์ไหว้กราบ พระเจ้า
บ้างมีโชคมีลาภ รวยง่าย
บ้างนั่งลุ้นค่ำเช้า หมดสิ้นความหวัง
บ้างพังพินาศสิ้น ชื่อเสียง
บ้างถูกจับขึ้นเขียง แล่เนื้อ
บ้างไร้รักอยู่เคียง ครองคู่
บ้างโอบอ้อมเอื้อเฟื้อ มากด้วยกรุณา
ค่าแห่งมนุษย์สัตว์นั้น ต่างกัน
กรรมย่อมแยกจัดสรร แบ่งไว้
ทุกอย่างปัจจุบัน จุดเริ่ม
ตนเร่งสอนตนไซร้ เปลี่ยนแก้กรรมเวร
๏ นิทานรัก
รักเอ๋ยรักเปรียบไว้ ดอกไม้
เมื่อแรกบานคล้าย ดอกฟ้า
ยามเฉาเหี่ยวเสื่อมคลาย ดั่งดอก พิษนา
คนต่างคิดไขว่คว้า เก็บไว้เชยชม
ต่างดอมดมกอดไว้ แนบกาย
เจอดอกรักพิษร้าย โศกเศร้า
ธรรมชาติหลอกหญิงชาย หลงติด ยึดนา
หากมากปัญญาไซร้ ต่างรู้ระวัง
หากพลั้งพลาดลื่นล้ม เจ็บกาย
เจ็บจิตอาจถึงตาย ค่ำเช้า
เรื่องรักอย่ามั่นหมาย ว่าสิ่ง ดีนา
ต่างเจ็บปวดรวดร้าว รักร้ายเล่นงาน
หวานได้แต่อย่าลิ้ม รสเพลิน
ติดลึกยากแก้เกิน ช่วยได้
ทางลื่นหลับตาเดิน หัวฟาด พื้นนา
ทางเปลี่ยวมากคนร้าย ต่างต้องเตรียมตัว
มัวคลั่งไคล้เคลิบเคลิ้ม ไล่ตาม
หลงแห่งรสกลกาม ทุกข์ไซร้
หากยอมเชื่อฟังความ จงรีบ ห่างนา
หากฉลาดป้องกันไว้ เคราะห์ร้ายเบาบาง
เส้นทางรักคดเคี้ยว อันตราย
อยู่ปากเหวตกตาย มากแล้ว
น้อยนักสู่ที่หมาย ได้ปลอด ภัยนา
หากโง่คงไม่แคล้ว ร่ำไห้โศกา
แรงเสน่หาแต่งแต้ม ดูดี
ร้อนเร่าเกินพัดวี ดับได้
เหินห่างแค่นาที แทบขาด ใจนา
เรื่องรักช่างโหดร้าย จิตนี้วุ่นวาย
กินไม่ได้ร่ำไห้ โหยหา
ยากกดข่มเปลือกตา หลับได้
ภาพเก่าล่องลอยมา หลอนหลอก ใจนา
ความใคร่ช่างโหดร้าย บีบเค้นอารมณ์
จิตซมซานเสื่อมแล้ว พลัง
ชีวิตหมดสิ้นหวัง หม่นไหม้
กายใจแทบแตกพัง เพราะคิด ถึงนา
พิษรักช่างโหดร้าย เกือบบ้าลงแดง
แรงตัณหาเร่าร้อน เกินทน
ท่านพร่ำบอกทุกคน หลีกไว้
เผลอลองเล่นเผาตน ถึงแก่ ตายนา
จงอย่าริรักไซร้ งดได้ปลอดภัย
ไฟแห่งรักดับได้ สงบเย็น
หมดโศกเศร้าทุกข์เข็ญ ผ่องแผ้ว
ตาบอดย่อมมองเห็น โลกสด สวยนา
นักปราชญ์ฉลาดแล้ว ต่างรู้พิษสง
ปลงไม่ได้ต่างต้อง ระวัง
เผื่อผิดเผื่อพลาดหวัง เลิศไซร้
เรื่องรักบ่จีรัง แปรเปลี่ยน ได้นา
คิดจะรักท่องไว้ ไม่ช้าจืดจาง
ทางธรรมท่านบอกไว้ คุณโทษ
รู้จักรักเกิดประโยชน์ มากได้
รักเพื่อจับจ้องโจทย์ หึงห่วง ทุกข์นา
รักเพราะใคร่ยิ่งร้าย เสื่อมสิ้นปัญญา ฯ
หมายเหตุ.-
นิทานเรื่องนี้ แต่งขึ้นเพื่อเยียวยาให้กับผู้ประสับภัยในความรัก
๏ มารไม่มี ความดีไม่เกิด
มารก็มี ผีก็สาป บาปก็มาก
จึงลำบาก ยากเกินแก้ ดูแลไหว
ต้องปล่อยวาง สร้างบารมี ความดีไป
จนสิ้นใจ ดีกว่า ก้มหน้ายอม
มารยิ่งมี ผียิ่งไล่ ใจต้องนิ่ง
อย่าได้วิ่ง ชิงหลบหน้า ปัญญาพร้อม
เตรียมรับมือ ถือธรรมไว้ ให้สุกงอม
อย่าคิดยอม พร้อมเรียนรู้ อยู่คู่บุญ ฯ
๏ ของขวัญ
คำนินทา ว่าร้าย คล้ายของขวัญ
อย่าไหวหวั่น สั่นกลัว จนหัวเสีย
เป็นเรื่องดี มีค่า อย่านึกเพลีย
เป็นเครื่องเจีย จิตใจ ให้อดทน
คนนินทา ด่าเรา อย่าเอาเรื่อง
จะสิ้นเปลือง เวลา หามรรคผล
รีบรับไว้ ใช้เป็น ช่วยเห็นตน
เกิดกุศล พ้นเขลา เราโชคดี ฯ
๏ ถามใจ
จากคลอดคลาน ผ่านวัย ก็ใกล้ฝั่ง
ยืนเดินนั่ง พลังหมด เริ่มถดถอย
ที่เคยงาม ทรามแทรก กลับแตกรอย
ใกล้ถูกสอย ให้หล่น พ้นต้นใบ
ดังเปลวเทียน หรี่ลง คงต้องดับ
ยากยึดจับ เยียวยา อายุขัย
สุขดื่มด่ำ จำพราก ต้องจากไป
หมดเยื่อใย ในญาติ จำขาดกัน
สุขสุดท้าย อยู่ไหน ใครรู้บ้าง
แค่อวดอ้าง สร้างชื่อ หรือสวรรค์
แค่ลูกหลาน คลานหา พร้อมหน้ากัน
แค่ผ่านวัน นั่นหรือ คือสุขใจ
อันสุขแท้ แน่นอน ท่านสอนไว้
คือสุขใจ ไร้บาป ทราบบ้างไหม
สุขสดชื่น ตื่นรู้ อยู่ด้านใน
สิ้นเชื้อไฟ โลกีย์ มีหรือยัง ฯ
๏ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ทำใจให้ฉลาด
อย่าเที่ยวยุ่ง มุ่งดี จู้จี้เขา
อย่าหาเหา ใส่หัว จะมัวหมอง
อย่าสอดรู้ สอดเห็น ทำเป็นมอง
ควรไตร่ตรอง ให้ดี อาจมีภัย
เรื่องของเรา เน่าเหม็น ทำเป็นเฉย
กลับละเลย เฉยไซร้ ไม่แก้ไข
ตนเตือนตน พ้นบาป ทราบแก่ใจ
เหตุไฉน ไม่ทำ กลับอำพราง
เรื่องของเขา เรารู้ ปิดหูไว้
อย่าใส่ใจ ถือสา ทำตาขวาง
อย่าเที่ยวพร่ำ ทำเก่ง เร่งปล่อยวาง
จงเลือกทาง สว่างไสว ของใจตน ฯ
๏ ละครชีวิต
ต่างเพ้อฝัน ขยันฟุ้ง ปรุงแต่งเรื่อง
ต่างสิ้นเปลือง ความคิด ริษยา
ต่างหลงเพลิน เผชิญโชค โลกมายา
ต่างปรารถนา หาทรัพย์ กลัวอับจน
ต่างเรียกร้อง ฟ้องฟ้า เมตตาช่วย
ต่างดวงซวย ซ้ำซ้อน นอนสับสน
ต่างปล่อยตัว ชั่วช้า หมดค่าคน
ต่างดิ้นรน ทนสู้ อยู่วันๆ
ต่างรู้ดี ชีวิต ไม่คิดมาก
ต่างฝังฝาก มากดี ชี้สร้างสรรค์
ต่างปล่อยวาง ห่างหลง ดงผูกพัน
ต่างรู้ทัน วันนี้ มีวันเดียว
ต่างรู้ตัว กลัวพลาด ฉลาดคิด
ต่างมีจิต คิดให้ ไม่หนืดเหนียว
ต่างรู้บุญ คุณโทษ อยู่โดดเดียว
ต่างแลเหลียว ใส่ใจ ในครอบครัว
ต่างละเลย หน้าที่ มีในบ้าน
ต่างเกียจคร้าน งานเกี่ยง เลี่ยงเล่นหัว
ต่างดื้อด้าน ค้านเขา เอาใจตัว
ต่างมืดมัว มืดมิด เดินผิดทาง ฯ
๏ ฝึกฝน
นิ่ง เหมือน พระปฏิมา
แกร่งกล้า เหมือน ขุนเขา
เบา เหมือน ปุ่ยนุ่น
สว่างไสว เหมือน กลางวัน
ไม่บอด เหมือน บอด
ไม่ใบ้ เหมือน ใบ้
ไม่หนวก เหมือน หนวก
รู้ เหมือน ไม่รู้
ฉลาด เหมือน โง่ดักดาน
บางครั้งต้องทำให้ได้
ทำไม่ได้ก็ต้องฝืนทำ
เพื่อให้เมฆหมอกพัดผ่านพ้นไป
จะทุกข์ให้โง่ทำไมหนอ ฯ
๏ เลือกเอา
คนหวังดี ชี้บอก ใช่หลอกเล่น
หวังให้เห็น ทุกข์โทษ ประโยชน์ไซร้
คนหวังร้าย หมายบอก เพื่อหลอกใจ
หวังดึงไว้ ให้หลง ในดงมาร
ใช้ปัญญา แยกแยะ และเลือกสรร
เลือกสักอัน ที่เห็น เป็นแก่นสาร
หากเลือกผิด คิดพลาด อาจทุกข์นาน
จะเสียการ เสียใจ ไปจนตาย ฯ
๏ ความฝัน
เมื่อเกิดมา ตัวเปล่า เท่ากำปั้น
ทุกสิ่งอัน นั้นหนา หามีไม่
เมื่อหลับตา ลากลับ ดับสิ้นใจ
ก็ต้องไป ตัวเปล่า เหมือนเจ้ามา
มัวหลงโลภ โอบอุ้ม จนกลุ้มจิต
มัวยึดติด คิดฟุ้ง มุ่งโหยหา
มัวปรุงแต่ง แย่งยื้อ ซื้อมายา
บ่อน้ำตา จึงไหล ไม่เว้นวัน
หัดเตรียมใจ เตรียมตื่น อย่ายืนเซ่อ
เดียวก็เจอ เรื่องร้าย คล้ายความฝัน
พอลืมตา หาดู อยู่ไหนกัน
กลับเป็นฝัน เชื่อสนิท คิดว่าจริง ฯ
๏ ปกติโลก
ลิ้นกับฟัน นั้นอยู่ เป็นคู่ชิด
คล้ายกับมิตร สนิทกัน ทุกวันเห็น
ย่อมมีพลาด อาจเผลอ เจอกัดเป็น
ต้องยอมเย็น เห็นใจ อภัยกัน
โกรธคือโง่ โบราณ เรียกขานว่า
โมโหบ้า หน้ายักษ์ หนักมหันต์
รีบเปลี่ยนใจ อภัยได้ ก็หายกัน
สิ่งสำคัญ ต้องเห็น เป็นธรรมดา
หากแก้ได้ ก็ควร รีบด่วนแก้
ลบรอยแผล แก้ไข ไร้ปัญหา
หากเก็บไว้ ไปนาน ไม่ทานยา
ไม่รักษา โรคบ้า จะมาเยือน ฯ
๏ พอ
อย่าได้หวัง ตั้งเป้า ให้เขาช่วย
เพื่อร่วมด้วย ช่วยเหลือ หรือเกื้อหนุน
คอยหยิบยื่น ชื่นชอบ หรือขอบคุณ
ช่วยค้ำจุน เห็นค่า มาเชิดชู
อย่าได้คิด เปลี่ยนใจ ใครทั้งโลก
อย่าอุปโลกน์ โน่นนั่น ว่ามันหรู
ตนพึ่งตน ทนเขลา เอาเป็นครู
จงยืนอยู่ คู่ดี แค่นี้พอ ฯ
๏ เจียมใจ
จงเจียมเนื้อ เจียมตัว กลัวผิดพลาด
อย่าอวดฉลาด ยกหู เที่ยวชูหาง
ไม่ใคร่ครวญ ด่วนจับ เดี๋ยวอัปปาง
หมดหนทาง แก้ไข ภัยถึงตน ฯ
๏ อดทน
ยามทุกข์จงอย่าได้ โอดครวญ
ยิ้มรับรีบเชิญชวน ร่วมห้อง
รสทุกข์ย่อมเย้ายวน จงอย่า กลัวนา
หวังซึ่งสุขจำต้อง ผ่านห้องปัญหา ฯ
๏ เริ่ม
เริ่มฝึกต้องเริ่มรู้ เข้าใจ
เริ่มหัดต้องก้าวไกล เก่งได้
เริ่มสงบย่อมปลอดภัย เกิดสุข
ไม่เริ่มย่อมทุกข์ร้าย ชาตินี้ล่าหลัง ฯ
๏ ธรรมดา
หากว่าเหนื่อยอ่อนล้า ท้อใจ
หมดซึ่งแรงภายใน ต่อสู้
อดทนอย่าร้องไป เดี๋ยวผ่าน
ปรับจิตให้รับรู้ เช่นนี้ธรรมดา ฯ
๏ จิต
จิตนี้หยาบชั่วช้า เลวทราม
เปื้อนฝุ่นกิเลสกาม มากไซร้
ฟุ้งซ่านเรื่องสวยงาม ปรุงแต่ง
รีบเร่งภาวนาไว้ เปลี่ยนแก้จิตตน ฯ
๏ คนบุญ คนบาป
คนบุญเที่ยวเสกสร้าง ความดี
คนชั่วทำอัปรีย์ ฝากไว้
คนบุญย่อมมั่งมี เป็นสุข
คนบาปย่อมทุกข์ไซร้ โชคร้ายทั้งปี ฯ
๏ คำตอบ
พระดีควรนั่งใกล้ คบหา
พระชั่วหลีกหลายวา อย่าใกล้
พระดีรีบบูชา ถามไถ่ ธรรมนา
ดีชั่วอยู่ร่วมไซร้ ย่อมรู้ไส้พุง ฯ
๏ นักบวช
บวชมาก็แสนจะนมนาน
สุขทุกข์ทรมานอยู่ในผ้าเหลือง
ข้าวสุกขนมสดหมดมากสิ้นเปลือง
ทนอยู่ในผ้าเหลืองไม่ได้อะไร
ยิ่งบวชนานนิพพานเริ่มไกลจาก
บาปกรรมเริ่มมากยากแก้ไข
ภูมิธรรมภูมิปัญญาหาไม่มีที่หัวใจ
ยิ่งบวชไปยิ่งใกล้อเวจีทุกวี่วัน ฯ
๏ ลาโยมไปอินเดีย
ลาโยมญาติมิตรผู้ มีคุณ
ลาวัดวาแดนบุญ ร่วมสร้าง
ลาพ้องเพื่อนค้ำจุน ที่ช่วย เหลือนา
จำจากจรแรมร้าง หลีกลี้บำเพ็ญ
อาจเป็นตายทุกข์ร้าย ลำบาก
จงอย่าคิดห่วงมาก บอกไว้
ทุกคำพร่ำสอนฝาก ช่วยจด จำนา
เช้าค่ำโมทนาไซร้ แบ่งให้ทุกบุญ
จงหาทุนเก็บไว้ ความดี
บาปชั่วอกุศลผี อย่าไกล้
ภาวนาเพื่อบารมี หมั่นบ่ม เพาะนา
ประมาทโทษมากไซร้ ฝากไว้ก่อนลา
บุญนำพาอาจได้ พบกัน
บาปย่อมตัดฉับพลัน ห่างไซร้
บุญมีช่วยพลักดัน อยู่คู่ เคียงนา
เดชแห่งบุญขอให้ ทั่วหน้าโชคดี ฯ
๏ ปลอบใจ
จงอย่าได้ร่ำไห้ เสียใจ
จงอย่าทุกข์เครียดไป หักห้าม
จงสงบอย่าหวั่นไหว ปรุงแต่ง มากนา
ยกจิตให้ก้าวข้าม เรื่องร้ายโลกธรรม ฯ
กรรมเก่าอาจส่งให้ เห็นผล
จงกัดฟันฝืนทน ข่มไว้
ควบคุมจิตของตน อย่าตก ตามนา
ทุกเรื่องย่อมผ่านไซร้ อย่าได้คิดกลัว ฯ