ข้อคิด บทกวีข้าวก้นบาตร ๔

๏ ดีนาน

คิดให้ไกล ไปให้ถึง จึงมีค่า
คิดแค่วา หาเพื่อตัว จะมัวหมอง
ให้ให้หมด ทดแทนคุณ บุญเป็นกอง
อย่าเป็นรอง ในความดี ผู้มีบุญ ฯ

อีกไม่นาน สังขารดับ ลาลับโลก
จะทุกข์โศก แสนเสียดาย ตายหมดสูญ
มีโอกาส ฉลาดทำไว้ ไม่อาดูร
หัดเพิ่มพูน บุญบารมี จะดีนาน ฯ

๏ สุขที่พอ

อย่าตีโพย โหยหา บ้าสมมติ
จงรีบหยุด ปรุงแต่ง แสวงหา
อย่าดิ้นรน วนว่าย ขายน้ำตา
โลกโสภา จะเปื้อน เตือนระวัง

ต่างเคยผิด คิดพลาด ประมาทไซร้
อย่าใส่ใจ ในเรื่อง เมื่อปางหลัง
ลืมได้ดี มีค่า อย่าจริงจัง
สติตั้ง เริ่มใหม่ ในทางบุญ ฯ

๏ รกเพราะเรา

ในหัวสมอง ตรองดู อดสูนัก
มีแต่รัก แต่รวย เรื่องสวยหล่อ
มีแต่ฟุ้ง ยุ่งใจ ไม่มีพอ
มีแต่ขอ รอฝัน จนวันตาย

โน่นนี่นั่น ขยันฟุ้ง จนยุ่งเหยิง
ถูกกองเพลิง เผาลน จนสุขสลาย
รีบตื่นดู รู้ทิ้ง นิ่งสบาย
หมดวุ่นวาย เลิกบ้า ตามหาดี ฯ

๏ ปกติเขา

แค่หมาเห่า เขลาโกรธ ชี้โทษหมา
กลับต่อว่า ด่าหมา ช่างน่าขำ
ธรรมชาติหมา อย่าเคือง
เปลืองถ้อยคำ จงหัดทำ นิ่งไว้ ดูใจตน

ธรรมชาติเขา เราดู รู้ให้ชัด
อย่าได้ขัด เอาชนะ อกุศล
เห็นแล้ววาง ต่างอยู่ อย่าสู้ชน
ชื่อว่าคน ไร้หาง แตกต่างกัน ฯ

๏ นิ่งรู้ รู้ทิ้ง

คิดเรื่อยเปื่อย เหนื่อยใจ ใครให้คิด
เพราะปล่อยจิต คิดฟุ้ง เลยยุ่งสมอง
ต้องรู้ทัน ขยันทำ ให้ช่ำชอง
เรื่องหนักสมอง จะเบา อย่าเขลาไป

หัดนิ่งรู้ ดูมัน ให้ทันเถิด
จะประเสริฐ เกิดผล กุศลใหญ่
จะหมดทุกข์ สุขพลัน ทุกวันไป
เป็นกำไร ใหญ่ยิ่ง ถ้าทิ้งเป็น ฯ

๏ อย่าสรุป

อย่าคิดเอา เดาคาด อาจพลาดผิด
เพราะต่างจริต นิสัย ไกลเกินเห็น
แค่วาจา คารม คล้ายลมเย็น
อาจกลายเป็น ลมพิษ ปลิดชีพเรา

หัดฟังหู ไว้หู นิ่งรู้ทิ้ง
ดูความจริง กับตา อย่าได้เขลา
แค่ภายนอก หลอกตา อย่าใจเบา
เห็นแค่เงา เดาว่า เดี๋ยวบ้าตาย ฯ

๏ คาถาตัดกรรม

ต้องรอได้ คอยได้ แบบง่ายไว้
ไม่ร้อนใจ ในจุด สุดวิสัย
ต้องอดได้ ทนได้ แบบสบายใจ
ทุกเงื่อนไข ไม่รวน คิดด่วนกลัว

ต้องสงบได้ เย็นได้ จนหายเครียด
ไม่แบกเกียรติ ยศศักดิ์ ให้หนักหัว
ต้องปล่อยได้ วางได้ จนหายกลัว
จะเบาตัว เบาใจ ไม่มีกรรม ฯ

๏ ปล่อยวาง

จงเรียนสวด บวชใจ ให้ไกลบาป
ถึงขั้นกราบ ตนได้ จนหายเขลา
หัดทำใจ ให้ว่าง จนบางเบา
อย่าหาเหา ใส่หัว อย่าชั่วตาย

เกิดเป็นคน มีค่า ปัญญามาก
ใช่สิ่งยาก สอนใจ ไม่มีสาย
อย่าคิดว่า เห็นว่า เดี๋ยวบ้าตาย
ปล่อยวางได้ หายทุกข์ มีสุขเอย ฯ

๏ ว่าง

ก็มันเป็น เช่นนั้น ทุกวันค่ำ
กลับไม่จำ ทำดื้อ ถือความเขลา
มันไม่มี แก่นสาร พาลตั้งเอา
จึงหลงเงา ความว่าง สร้างตัวตน

คนหนอคน วนวก โกหกจิต
ต่างยึดติด คิดว่า บ้าสับสน
ไม่คิดวาง เห็นว่าง ต่างคิดวน
จึงมืดมน ทนทุกข์ ติดคุกกรรม ฯ

๏ บทภาวนาสำหรับคนที่นอนหลับยาก

จงหลับสนิท อย่าคิดฟุ้ง ให้ยุ่งจิต
จงหยุดคิด หยุดเพ้อเจ้อ ละเมอฝัน
จงเตรียมตื่น ยืนยิ้มสู้ อยู่อีกวัน
เพื่อสร้างสรรค์ มอบความสุข ให้ทุกคน

เมื่อวันวาน ผ่านพ้นมา อย่าคว้าไว้
จงปล่อยไป อย่าโหยหา พาสับสน
อย่าคิดมาก วางไว้ก่อน จงสอนตน
เกิดเป็นคน ต้องอายหมา หลับตานอน ฯ

๏ สารภาพ

อย่าเรียกร้อง มองหา ใครมาอุ้ม
อย่าคิดกลุ้ม รุมเร้า ในเงาฝัน
อย่าซึมลึก นึกกลัว ช่างหัวมัน
อย่าบีบคั้น หัวใจ ให้ทรมาน

เพียรปล่อยวาง ห่างฟุ้ง เรื่องยุ่งจิต
อย่าได้คิด ผิดไป ไร้แก่นสาร
รีบตื่นรู้ ดูใจ อย่าไว้นาน
จะเสียงาน พาลเขลา เน่าใจตน

ทุกเหตุการณ์ ผ่านมา อย่าเที่ยวโจทย์
อย่าได้โกรธ โทษใคร ให้สับสน
โทษตัวเรา เขลาไป เชื่อใจคน
จะมืดมน จนตรอก ชอกช้ำทรวง ฯ

๏ แตกต่าง

แม้ไม่ใช่ ชาติเชื้อ หากเกื้อหนุน
ก็มีคุณ เทียบเท่า เผ่าพงศา
อาจร่วมเรือน เยือนเยี่ยม เปี่ยมเมตตา
ย่อมคบหา เป็นมิตร ชิดกายา

แต่หากว่า คลานคลอด ร่วมอ้อมกอด
ได้สินสอด ครองคู่ ร่วมคูหา
แต่คิดคด หมดใจ ไม่กรุณา
ก็มีค่า เฉกเช่น เป็นคนไกล ฯ

๏ ชอบชัง

มนุษย์ก็แค่นี้        ชอบชัง
ยามชอบก็วาดหวัง   เพริดพริ้ง
ยามชังกลับหันหลัง   บอกเบื่อ
สองสิ่งนี้ควรทิ้ง     ตื่นรู้ตามทัน

ชอบชังมันพิษร้าย    พอกัน
กัดจิกทุกธาตุขันธ์    หม่นไหม้
ดีสุดอยู่เหนือมัน     สอบผ่าน
โง่สุดบ้าตามไซร้    ชาตินี้เสียคน ฯ

๏ มาฆบูชา

กราบบูชา ศาสดา ตถาคต
ผู้หมดจด บริสุทธ์ ผุดผ่องใส
ถวายประทีบ ชีพสละ แด่รัตนตรัย
จิตสว่างไสว ในบุญ อิ่มอุ่นธรรม ฯ

๏ โปรดทราบ

เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด ฉลาดไว้
หัดห้ามใจ ใช้ปัญญา ดูหน้าหลัง
อาจต้องตาย หายนะ โปรดระวัง
หัดวางบ้าง หวังแต่ดี อัปรีย์ตน ฯ

๏ แล้วสอนว่า..

อย่าไว้ใจ ในทาง ที่อ้างบอก
อาจโดนหลอก ชอกช้ำ เพราะคำหวาน
ควรฟังหู ดูใจ ไปนาน ๆ
อาจมีมาร ขัดขา น้ำตานอง

หากคิดถึง พึงคิด ด้วยจิตว่าง
อย่าได้สร้าง คุกใจ ให้หม่นหมอง
คิดแล้ววาง ต่างอยู่ ดูน่ามอง
อย่าคิดครอง เดี๋ยวทุกข์ หมดสุขพลัน

อย่าทุกข์ร้อน นอนเหงา เฝ้าโหยหา
อย่าแสวงหา บ้าไป ในความฝัน
อย่าแบกโลก โศกเศร้า เฝ้าร่ำพัน
ทุกสิ่งอัน ผันแปร ไม่แน่นอน

ทำวันนี้ ดีไว้ ให้พร้อมเถิด
ร้ายจะเกิด รับรู้ เป็นครูสอน
ดีมีมา อย่าหลง จงสังวร
แค่ละคร ชีวิต อนิจจัง ฯ

๏ อดทน

ทุกสิ่งอย่าง ใช่ยาก ลำบากจิต
หากรู้คิด รู้ทำ นำลาภผล
อย่าคิดมาก กลัวมาก ลำบากตน
เกิดเป็นคน อดทนไว้ ไม่อับจน ฯ

๏ วจีมงคล

จะพูดจา ว่าใคร ให้คิดก่อน
อย่ารีบร้อน ด่วนด่า นินทาเขา
หากะลา ภาชนะ ชะโงกเงา
ดูตัวเรา ให้ชัด ก่อนกัดใคร

หัดพูดจา ภาษา ที่น่าไหว้
อย่าพูดร้าย คุ้ยเขี่ย เสียนิสัย
พูดแต่ดี มีค่า น่าเย็นใจ
เป็นบุญใหญ่ ใครฟัง ยังโชคดี ฯ

๏ คน

ยามมีสุข เริงร่า หน้าตาอิ่ม
ต่างแย้มยิ้ม แก้มใส นัยน์ตาหวาน
ยามทุกข์ใจ ไยกลุ้ม กุมกบาล
ดูทรมาน ปานว่า จะบ้าตาย

ยามอยู่ดี มีกลืน ยืนแอ่นอก
ลืมนรก วัดวา หลบหน้าหาย
ยามทุกข์ทับ อับจน ทนอับอาย
ต่างขวนขวาย ไหว้วอน ขอพรบุญ ฯ

๏––––––––––––––๏

ปูนหินดินแต่งปั้น     ปฏิมา
ทวยเทพกราบวันทา    นบไหว้
อักษรแต่งภาษา       เป็นบท กวีนา
สอดแทรกธรรมสอนได้  แก่นแท้กุศล

ภาษาคนสื่อได้        แก่นธรรม
ตาดีอ่านรู้คำ         แต่งได้
ปัญญาดีจดจำ         ขบคิด รู้นา
มืดบอดเก็บไว้ท้าย     อย่าได้กังวล

บางคนล้วนแต่งได้     บทกวี
แต่งแต่คำกาลี        หยาบช้า
แต่งด่าทั่วปฐพี        อ้างอวด กวีนา
สอดแทรกอธรรมบ้า    ก่อสร้างกรรมเวร ฯ

๏ คุณภาพ

เป็นผู้ใหญ่ ใจแคบ แบบยาจก
จิตลามก ยกหู เที่ยวชูหาง
ได้ว่าดี มีซุก เอาทุกทาง
ชอบอวดอ้าง สร้างชื่อ ถืออัตตา

มีพระเดช เศษเสี้ยว ชอบเกรี้ยวโกรธ
เพ่งแต่โทษ โหดร้าย ป้ายปัญหา
มีพระคุณ น้อยนิด คิดราคา
ทวงสัญญา ค่าทุน ที่จุนเจือ

เป็นผู้ใหญ่ ใจงาม ถูกตามสูตร
ทุกคำพูด จริงใจ ทั้งใต้เหนือ
มิตรไมตรี ดีล้น จนเหลือเฟือ
หวังเพียงเพื่อ เกื้อโลก พ้นโศกเอย ฯ

๏ บทภาวนาแผ่ไมตรีจิตมิตรภาพ
สันติภาพ สันติสุข สันติธรรม สันติบท

สัพเพสัตตา
อันว่าสัตว์ ทั้งหลาย ร่วมตายเกิด
ถือกำเนิด เกิดอยู่ ทุกหมู่เหล่า
ทั้งดีชั่ว ทั่วทิศ คือมิตรเรา
อย่าเลือกเอา บางส่วน ล้วนเพื่อนตาย ฯ

อะเวรา โหนตุ
เลิกจองเวร จองกรรม ทำโทษทุกข์
จะติดคุก ทุกข์ใจ ไร้ความหมาย
อย่าถือโทษ โกรธเคือง เปลืองน้ำลาย
อภัยได้ หายกัน นั้นคือดี

อัพยาปัชฌา โหนตุ
อย่าเบียดเบียน เพียรผิด คิดอาฆาต
อย่าประมาท ขาดศีลสัตย์ จะบัดสี
จงเมตตา กรุณา และปราณี
มองแต่ดี มีคุณ เป็นบุญใจ

อะนีฆา โหนตุ
จงพ้นทุกข์ พ้นโศก พ้นโชคร้าย
โรคทั้งหลาย หายสนิท จิตผ่องใส
จงสอบผ่าน มารศัตรู อยู่ใกล้ไกล
อุปสรรคใด ให้จบ พบทางเดิน

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
จงอยู่ดี มีสุข ทุกถ้วนหน้า
มีปัญญา หาใช้ ไม่ขาดเขิน
จงสมหวัง ดั่งคิด จิตเพลิดเพลิน
ชีวิตเจริญ สว่างไสว ในฉับพลัน ฯ

๏ หนึ่งทางโลก หนึ่งทางธรรม

โลกต้องดี มีเป็น เห็นและได้
ต้องขวนขวาย บ่ายหน้า ถึงป่าผี
ต้องดิ้นรน ทนบุก ทุกนาที
เพื่อให้มี ดีไว้ ดั่งใจกู

ธรรมต้องงด ชดใช้ ให้หมดสิ้น
เกียรติกามกิน ปล่อยวาง ห่างตัวสู
อย่าข้องแวะ แกะกล่อง เพื่อลองดู
ต้องเฝ้าดู รู้ทัน วางมันลง

โลกเป็นหนึ่ง จึงทุกข์ จุกอกแน่น
หลังจึงแอ่น แบกไว้ จนใจหลง
ธรรมเป็นหนึ่ง ถึงสุข ทุกข์ไม่ชง
จิตรู้ปลง สว่างไสว ไม่หลงทาง ฯ

๏ บุญคุณ

ยามดื่มน้ำ ตามบ่อ จนคอชุ่ม
อย่าเดินดุ่ม หลีกไป ไม่เหลียวหลัง
แดดแรงร้อน นอนสบาย ได้ไม้บัง
หัดคิดบ้าง กตัญญู รู้คุณคน

อันต้นไม้ คล้ายคน ที่ทนขุด
จิตบริสุทธิ์ ขุดไว้ ใช่หวังผล
เราได้ดื่ม ยืมใช้ กำไรตน
เกิดเป็นคน คิดไว้ ใครให้เรา

กตัญญู รู้ดี ความดีท่าน
บุญอนันต์ หมั่นตอบ ขอบคุณเขา
อย่าได้หน้า ลืมหลัง จะพังเอา
อย่าอวดเขลา ว่าดี เพราะมีเรา ฯ

๏ ออ

แม้ชี้บอก ตอกย้ำ ด้วยคำพูด
จะกี่สูตร พูดไป ก็ไร้ผล
จะร่ายรำ ทำท่า ก็หายล
เพราะเป็นคน สิ้นคิด เห็นผิดไป

คนตาดี สีใด ไม่กังขา
ไกลเป็นวา ตามอง สมองใส
คนตาบอด จอดสนิท ปิดกลไก
ถึงบอกไป ไร้ค่า ยังด่าเรา

เรื่องดีดี มีอยู่ ปิดหูหนี
เรื่องอัปรีย์ ดีชอบ รีบตอบเขา
เรื่องวุ่นวาย กายใจ วิ่งไล่เอา
จึงโศกเศร้า เขลากัน ทุกวันคืน ฯ

๏ ศีล ๕ เกราะแก้วป้องกันกรรม

ปาณาติปาตา เวรมณี
งดเบียดเบียน เฆี่ยนฆ่า ทารุณร้าย
งดทำลาย หมายหัว ยั่วโทสา
งดรังแก แล่เนื้อ เอาเกลือทา
จงเมตตา การุณ รู้คุณกัน

อทินนาทานา เวรมณี
งดลักลอบ หอบหนี สร้างหนี้สิน
งดโกงกิน ยักยอก หลอกขายฝัน
งดมักง่าย จ่ายเล่น เซ่นพนัน
จงถือมั่น สุจริต คิดซื่อตรง

กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี
งดมอบใจ ให้ชู้ ทิ้งคู่รัก
งดเที่ยวทัก หลอกใคร ให้ลุ่มหลง
งดบ้ากาม ตามตรึก หัดฝึกปลง
จงซื่อตรง คงจิต มิตรไมตรี

มุสาวาทา เวรมณี
งดมุสา ด่าใคร ให้ใจช้ำ
งดใช้คำ หยาบคาย เที่ยวป้ายสี
งดส่อเสียด เกลียดแกล้ง แสร้งพูดดี
จงอย่ามี อกุศล ปนน้ำลาย

สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี
งดดื่มเหล้า เมาค้าง สร้างปัญหา
งดเสพยา หาผลิต คิดค้าขาย
งดเชิญชวน ควรกลัว เดี๋ยวชั่วตาย
จงห่างกาย คายทิ้ง คือสิ่งดี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
จงตั้งไว้ ในจิต คิดเห็นโทษ
เห็นประโยชน์ เห็นค่า เพิ่มราศี
อย่าประมาท ขาดศีล กลิ่นชั่วมี
จะสิ้นดี มีกรรม จิตต่ำทราม

๏ บทสวดบูชาพระรัตนตรัย

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต

อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ
ขอนอบน้อม ยอมสยบ นบกราบไหว้
ทั้งใจกาย ถวายอก ยกเหนือหัว
ในคุณพระ อรหันต์ นั้นหมดตัว
จะเว้นชั่ว ทำดี พลีบูชา ฯ

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ
จะถือไว้ ในใจ ไปทุกที่
จะเห็นดี มีใจ ไม่กังขา
จะเห็นด้วย ทุกคำ นำปัญญา
จะศรัทธา สูงสุด พระพุทโธ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ
จะน้อมนำ ทำตาม ด้วยความเชื่อ
อยู่ทุกเมื่อ เพื่อใจ ไร้โทโส
อีกโลภหลง ปลงสลัด อัตตาโต
ถือธัมโม ครองใจ ไปจนตาย

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ
จะฟังความ ตามที่ สงฆ์ชี้สอน
เพื่อละถอน สอนตน จนทุกข์หาย
จะพากเพียร เรียนหัด ดัดใจกาย
ให้สุขง่าย ได้ดี มีปัญญา

พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ
ธัมมัง วันทามิ สังฆัง นะมามิ ฯ

ขอก้มกราบ ขอขมา วันทาไหว้
ด้วยใจกาย ถวายไว้ ให้ศาสนา
จะยึดมั่น กตัญญู และบูชา
จะศึกษา พาตน พ้นทุกข์เอย ฯ
(กราบ ๓ ครั้ง)

๏ ๒. บทบูชาคุณบิดามารดา

มาตาปิตุคุณัง อะหัง วันทามิ ฯ
ลูกขอกราบ บูชา ขมาโทษ
ท่านจงโปรด เมตตา อย่าถือสา
พระคุณท่าน นั้นเลิศ ให้เกิดมา
ให้เหนือฟ้า เหนือดิน จนสิ้นใจ ฯ
(กราบ ๑ ครั้ง)

๏ ๓.บทบูชาคุณครูอุปัชฌาอาจารย์

ครุอุปัชฌาย์อาจริยังคุณัง อะหัง วันทามิ ฯ
ขอระลึก นึกน้อม พร้อมกราบไหว้
คุณทั้งหลาย ของครู ผู้สั่งสอน
ขอขมา ลาบาป กราบขอพร
สิ่งท่านสอน จะฟัง ตั้งใจทำ ฯ
(กราบ ๑ ครั้ง)

๏ บทสวดขอพร

ลูกขอบูชาคุณพระพุทธะ
จงเกิดตบะและศรัทธา
บูชาคุณพระธรรมอันล้ำค่า
จงเกิดปัญญาสว่างไสว

บูชาคุณพระปัจเจกพุทธะ
จงชนะมารทุกชาติไป
บูชาคุณพระสังโฆชัย
จงหมดโรคภัยและเวรกรรม

บูชาคุณมารดาบิดา
จงมีความเพียรกล้าเป็นตัวนำ
บูชาคุณครูอาจารย์ผู้เลิศล้ำ
จงกล้าทำดีมีวินัย

บูชาเทพเทวาทั่วจักรวาล
จงต้านทานเสนียดและจัญไร
จงคุ้มครองให้ปลอดภัย
ทำการใดช่วยปราบมาร

บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ผู้มีฤทธิ์ทุกถิ่นฐาน
จงดลจิตให้กล้าหาญ
คิดการใดใจมั่นคง

ลูกจะทำพูดคิดในสิ่งใด
จงสว่างไสวสมประสงค์
สำเร็จง่ายได้ดั่งคิดจิตจำนง
ขอทุกองค์จงเมตตาอย่าขัดขวาง

ทางใดเป็นทางบุญ
ขอทุกพระคุณช่วยชี้ทาง
เปิดประตูอย่าอำพราง
ให้ลูกได้สร้างบุญบารมี

ความดีใดที่เป็นเลิศ
ประเสริฐสุดในโลกนี้
ขอท่านจงเมตตาและปราณี
ให้ลูกนี้ได้ทำเทอญ ฯ

๏ คำประกาศขอขมา

อันบาปกรรม ทำคิด พูดผิดพลาด
เคยประมาท ขาดสติ ดำริชั่ว
ต่อสรรพสิ่ง หญิงชาย ไม่อายกลัว
ขอก้มหัว ขอขมา ต่อฟ้าดิน

จงเมตตา อโหสิ ยุติไว้
กรรมปางไหน มีมา หมดค่าสิ้น
ขอชีวิต คิดใหม่ ไร้มลทิน
เพื่อมีศีล มีธรรม สร้างกรรมดี ฯ

นัตถิ กัมมะสะมัง พะลัง
ไม่มีกำลังใดเสมอด้วยกำลังแห่งกรรม ฯ

อันกำลัง พลังใด ในโลกนี้
พลังกรรมมี ฤทธิ์กล้า เหนือฟ้าฝน
จะดีเด่น เป็นใคร ในสากล
หนีไม่พ้น ผลกรรม ที่ทำมา

ไม่วันนี้ ปีหน้า อาจมาถึง
หมดบุญพึ่ง ถึงฆาต หวาดผวา
ต้องร้อนรน ทนฝืน กลืนน้ำตา
ทุกถ้วนหน้า ต้องจบ พบทางตัน

ยามกินดี มีดื่ม ลืมนรก
ระวังตก หกราด พลาดสวรรค์
อย่าอวดมี ดีเพลิน เดินอวดกัน
กรรมตามทัน ฝันสลาย ตายทั้งเป็น ฯ

๏ บทภาวนาเบิกเนตร

อย่าหลับตา ว่าใช่ ดังใจคิด
อาจมีสิทธิ์ ผิดพลาด ฉลาดไว้
ควรไตร่ตรอง มองเป็น เห็นใส้ใน
อย่าปักใจ ใช่เลย เคยเห็นมา

จะซื้อผ้า ตาดู ให้รู้เนื้อ
จะซื้อเกลือ รู้ไว้ ใช้ชิวหา
จะเชื่อใคร หัดไว้ ใช้ปัญญา
อย่าศรัทธา ตามัว จนตัวตาย ฯ

๏ ไมตรีจิต

จะคบค้า สมาคม นิยมใคร
คบด้วยใจ ใสสะอาด อย่าวาดหวัง
จงมอบจิต มิตรไมตรี อย่ามีชัง
ถ้าพลาดพลั้ง รั้งเตือน เป็นเพื่อนเคียง

ต้องเปิดใจ ให้ว่า ด่ากันได้
อย่ามัวอาย เก็บกด งดออกเสียง
หวังดูแล แก้ไข ไม่ลำเอียง
อย่าแค่เพียง เคียงเล่น เป็นเพื่อนคุย ฯ

๏ โลก

โลกหนอโลก โศกสุข สนุกสนาน
ทุกข์ทรมาน หวานชื่น รื่นเริงหนอ
อยู่แค่โลก โศกสุข ทุกข์ให้พอ
อย่าได้ง้อ พระธรรม นำปัญญา

ถ้าหวังสุข สงบเย็น เป็นประโยชน์
หัดเห็นโทษ เห็นภัย ในตัณหา
รู้สึกตัว กลัวหลง ดงมายา
รีบลืมตา หาธรรม ไว้นำทาง ฯ

๏ ลบทิ้ง ลืมสนิท ชีวิตเบา

พูดทำไม ไร้ค่า งดอย่าพูด
ปิดหูรูด พูดไป ไร้ความหมาย
คนนิ่งเงียบ เรียบร้อย มีน้อยราย
เห็นมากมาย คล้ายบ้า เมายาดอง

พูดทำไม ในเมื่อ เป็นเชื้อเก่า
อย่ารื้อเอา เช่าไว้ ให้หนักสมอง
ผ่านมาแล้ว แล้วไป ไยต้องมอง
เรื่องทั้งผอง ของเน่า อย่าเขลาดม ฯ

๏ เกิดมาทำไม ?

เมื่อเกิดมา หาให้พบ ครบสี่อย่าง
หนึ่งรีบสร้าง ทางปัญญา ค้นคว้าไว้
สองเงินตรา หาให้ได้ เลิกอายใคร
สามฝักใฝ่ ในความดี เป็นศรีตน

สี่สำคัญ ท่านชี้ไว้ ให้รีบหา
คือภาวนา อบรมใจ ให้เกิดผล
หมดสิ้นทุกข์ สุขตลอด ปลอดกังวล
เกิดเป็นคน ต้องฉลาด โอกาสดี ฯ

๏ ลืมไป

ต่างตัดพ้อ ต่อว่า ชะตาไซร้
ต่างร่ำไห้ โหยหา น้ำตาร่วง
ต่างโทษนี่ ชี้ด่า ว่าถูกลวง
ต่างเฝ้าหวง ห่วงหา บ้ากันไป

ต่างยึดติด คิดมาก อยากไม่หยุด
ต่างยื้อฉุด จุดชนวน ชวนหลงใหล
ต่างดิ้นรน ทนเจ็บ เหน็บหนาวใจ
ต่างลืมไป ไม่ช้า เดียวบ้าตาย ฯ

๏ หาร ๒

ก็บุญกรรม ทำมา ตีตราไว้
เป็นเหตุให้ ไร้ค่า หมดราศี
อย่าวาดหวัง ตั้งเป้า เขลาสิ้นดี
ถ้าบุญมี ผีช่วย เทพอวยพร

อยู่ที่ไหน ไปมา อย่าคาดว่า
เดี๋ยวพลาดท่า หน้าหงาย ยากถ่ายถอน
ดูหน้าหลัง ขวาซ้าย ก่อนไหว้วอน
ทุกขั้นตอน สอนใจ ให้หารเป็น ฯ

๏ วิธีทำสมาธิ

หายใจเข้า ออกเบาๆ เอาใจรู้
ให้ใจอยู่ คู่ลมไว้ อย่าให้หาย
เข้าออกรู้ ดูเล่นไป ให้ผ่อนคลาย
นั่งสบายๆ หายใจไว้ อย่าใจลอย ฯ

๏ สะอาดใจ

สะอาดนอก สะอาดใน ใจบริสุทธิ์
ประเสริฐสุด พุทธบูชา ศรัทธามั่น
เก็บคะแนน แทนพระคุณ บุญเกิดพลัน
ต่างช่วยกัน เก็บกวาด สะอาดใจ ฯ

๏ กรรมของยุค อย่าทุกข์ตาม

บ้านก็ขัด วัดก็วุ่น แม่คุณเอย
ต่างละเลย ในหน้าที่ กาลีหนอ
โยมก็ฉะ พระก็ร้อน ถือค้อนรอ
เย็นไม่พอ เลยวุ่นวาย อายทั่วเมือง

โน่นนี่นั่น ฉันก็รู้ กูก็เก่ง
ต่างถือเคร่ง เพ่งสงสัย ในทุกเรื่อง
เขาว่ามา หลับตาโจทย์ คิดโกรธเคือง
คนทั้งเมือง ต่างถือศีล ชอบนินทา

รีบกลับมา หาพระธรรม ค้ำดวงจิต
อย่าได้คิด ติดคาใจ ในปัญหา
โลกส่วนโลก เขาส่วนเขา อย่าเอามา
ใช้ปัญญา พาจิตรอด เป็นยอดดี ฯ

๏ น้ำใจ

อันน้ำใจชุบเลี้ยง        แบ่งปัน
ไม่เลือกเพศผิวพรรณ     ชาติเชื้อ
ให้เสมอทั่วหน้ากัน       หวังช่วย
ควรหยิบยื่นเอื้อเฟื้อ      ออกแล้วจากใจ ฯ

๏ รู้เขา เราวาง

เย็นไว้โยม เย็นไว้ อย่าใจร้อน
นับสิบก่อน ค่อยว่า ดีกว่าไหม
เรื่องเล็กน้อย ถอยได้ สบายใจ
ใช่เรื่องใหญ่ ให้กลุ้ม ทุ่มสุดตัว

เย็นไว้พระ เย็นไว้ อย่าใจร้อน
นับสิบก่อน ดีกว่า อย่าปวดหัว
เรื่องเล็กน้อย ถอยมา ฟ้ามืดมัว
จะเปลืองตัว เสื่อมใจ ใช่เรื่องดี

มันก็เป็น เช่นนี้ มีทุกยุค
อย่านำทุกข์ ทับถม ผสมสี
จงหัดวาง ต่างอยู่ จะดูดี
เรื่องกาลี ปล่อยเขา เราเอาบุญ ฯ

อ่านต่อ หน้า ๕